Loading....

ระบบเสากันขโมยคืออะไร แต่ละประเภทต่างกันอย่างไร

ปัจจุบันในธุรกิจที่ต้องมีหน้าร้านค้า ตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ หรือตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ อาจะมีในหลาย ๆ ที่ที่ยังประสบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการลักขโมยจากพวกมิจฉาชีพ ซึ่งมีอาจมีหลากหลายวิธีในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น โดยเสากันขโมยนั้น เป็นวิธีการนึงที่ใช้ในการป้องกันการขโมยสินค้าได้ค่อนข้างดี โดย หลายคนอาจจะเคยเห็น เสากันขโมยที่อยู่ตามทางเข้าของร้านค้าในห้างต่าง ๆ เช่น ร้านเสื้อผ้า, ร้านขายอุปกรณ์ต่างๆ, ร้านเครื่องสำอางค์ รวมไปถึงร้านอาหารหรือร้านค้าอื่น ๆ กันอย่างมากมาย จึงเห็นได้ว่า เสากันขโมยนั้นเป็นเหมือนอุปกรณ์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายกันนั่นเอง

เสากันขโมยนั้นอาจมีหลากหลายรูปแบบให้เลือก ขึ้นอยู่กับสินค้า สถานที่ หรือความต้องการในการนำไปใช้งาน เช่น บางชนิดเป็นระบบป้ายแท็ก บางชนิดอาจเป็นระบบ barcode เรามาดูกันว่า สัญญาณมีรูปแบบไหนบ้าง แต่ละแบบทำงานอย่างไร และมีความเหมาะกับสินค้าหรือธุรกิจรูปแบบไหน

 

เสากันขโมย RF (Radio Frequency), AM (Acoustic Magnetic), และ EM (Electromagnetic) เป็นระบบที่ใช้ในการป้องกันการขโมยและความปลอดภัยในร้านค้าหรือบริเวณที่ต้องการความปลอดภัยสูง แต่แต่ละระบบมีความต่างกันอย่างมีนัยสำคัญดังนี้:

 

RF (Radio Frequency): ระบบ RF เป็นระบบที่ใช้คลื่นวิทยุในการทำงาน โดยมีเสากันขโมยที่ติดตั้งอยู่ที่ประตูหรือทางเข้าและทางออกของร้านค้า ระบบจะมีแท็ก (tag) หรือสติ๊กเกอร์ที่สินค้าที่ต้องการป้องกันติดอยู่ และมีเครื่องรับสัญญาณ RF ที่ติดตั้งอยู่ที่เสากันขโมย เมื่อมีสินค้าที่มีแท็กผ่านเสากันขโมย ระบบจะส่งสัญญาณเตือนเพื่อแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ว่ามีการขโมยเกิดขึ้น

 

สถานที่ค้าขายหรือร้านค้า: ระบบ RF เหมาะสำหรับร้านค้าที่มีของมากมายและคนเดินชมสินค้ามาก เพราะสามารถตรวจจับการขโมยได้โดยรวดเร็ว และไม่ต้องมีการติดแท็กที่สินค้าอย่างใกล้ชิด.

ร้านค้าขนาดใหญ่: ระบบ RF ทำงานได้ดีในพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น ห้างสรรพสินค้าหรือโรงหนัง โดยไม่ต้องมีจำนวนมากของเสากันขโมย.

 

AM (Acoustic Magnetic): ระบบ AM ใช้หลักการทางเสียงและแม่เหล็กในการทำงาน ประกอบด้วยเสากันขโมยและแท็ก (tag) ที่แม่เหล็กซึ่งมีค่าความถูกต้องมากกว่าระบบ RF ระบบจะทำงานโดยเมื่อสินค้าที่มีแท็กผ่านเสากันขโมย แท็กจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในสนามแม่เหล็ก ทำให้ระบบส่งสัญญาณเตือนเพื่อแจ้งเตือนการขโมย

ร้านค้าที่มีของมีค่าและมีความประสิทธิภาพสูง: ระบบ AM มักใช้ในร้านค้าที่ขายของมีค่าและมีความสำคัญ เนื่องจากมีความถูกต้องมากกว่าระบบ RF และ EM.

ร้านค้าที่มีพื้นที่จำกัด: เนื่องจากระบบ AM มีระยะการทำงานน้อยกว่า RF และ EM จึงเหมาะสำหรับร้านค้าที่มีพื้นที่จำกัดและไม่ต้องการเสากันขโมยหลายตัว.

 

EM (Electromagnetic): ระบบ EM ใช้หลักการทางไฟฟ้าแม่เหล็กในการทำงาน ประกอบด้วยเสากันขโมยและแท็ก (tag) ที่เป็นแม่เหล็ก เมื่อแท็กผ่านเสากันขโมย ระบบจะสร้างสนามไฟฟ้าที่มีความแรงเพียงพอที่จะเกิดกระแสไฟฟ้าในแท็ก เมื่อกระแสไฟฟ้าเกิดขึ้น ระบบจะส่งสัญญาณเตือนให้เจ้าหน้าที่ร้านค้ารู้ว่ามีการขโมยเกิดขึ้น

ร้านค้าที่มีของมีค่าและมีความประสิทธิภาพสูง: เหมาะสำหรับร้านค้าที่ขายของมีค่าและมีความสำคัญ เนื่องจากมีความถูกต้องมากกว่าระบบ RF.

ร้านค้าที่ต้องการระยะการทำงานยาว: ระบบ EM มีระยะการทำงานที่ยาวกว่า RF และ AM จึงเหมาะสำหรับร้านค้าที่มีพื้นที่ใหญ่.


หลักจากที่กล่าวมาข้างต้น ยังต้องพิจารณางบประมาณด้วย ระบบ RF มักมีราคาต่ำกว่าระบบ AM และ EM แต่ระบบ AM และ EM มักมีประสิทธิภาพการตรวจจับที่ดีกว่า ดังนั้นควรพิจารณาลักษณะและความต้องการของร้านค้าหรือสถานที่ของคุณเพื่อเลือกระบบเสากันขโมยที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการใช้งานของคุณ

 

สรุปแล้ว เสากันขโมยระบบ RF ใช้คลื่นวิทยุในการทำงาน ระบบ AM ใช้หลักการทางเสียงและแม่เหล็ก และระบบ EM ใช้หลักการทางไฟฟ้าแม่เหล็ก การเลือกระบบที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของสถานประกอบการ ทั้งสามระบบมีประสิทธิภาพในการป้องกันการขโมย แต่แต่ละระบบมีความเหมาะสมกับสถานการณ์และการใช้งานที่แตกต่างกันไป

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*
*

Back To Top